เรื่องของ “เจ้าเปี๊ยก”

โด่งดังกันไปตามที่แฟนๆ เรียกร้องกันแล้ว นาทีนี้สำหรับ “เจ้าเปี๊ยก” ดาวรุ่งพุ่งแรงชาวอิตาลี นามว่าจูเซปเป้ รอสซี่ ที่โชว์ลีลาเรียกเสียงฮือฮาในการเปิดตัวลงสนามเกมพรีเมียร์ลีก นัดแรกใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็เบิกสกอร์แรกของตัวเองได้สำเร็จ สะใจบรรดาแม่ยก พ่อยก ทั้งหลาย ที่เอาใจเชียร์ ลุ้นเจ้าเปี๊ยกให้ได้รับโอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่ซะที ก็นะผลงานในทีมสำรองออกจะฮอตฮิตติดลมบนขนาดนั้น ยิงกระจายจนกองหลังทีมอื่นเขากลัวตัวสั่นหมดแล้ว
ความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของเจ้าเปี๊ยก เริ่มฉายแววมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงจะเติบโตที่ดินแดนเมืองลุงแซมอเมริกา ไม่ได้นิยมกีฬาฟุตบอลเป็นเมนหลัก แต่เรื่องแบบนี้มันอยู่ในสายเลือด ใจรักซะอย่าง จนกลับไปอิตาลี บ้านเกิดเมื่ออายุ 12 เส้นทางบนถนนลูกหนังของเจ้าเปี๊ยกจึงได้เริ่มอย่างจริงๆ จังๆ ปาร์ม่า เป็นสโมสรที่เจ้าเปี๊ยกเลือกสังกัด ถึงแม้จริงๆ แล้ว เจ้าตัวมีเลือดปิศาจแดง แต่เป็นแดง-ดำ อยู่เต็มตัว เนื่องจากคุณพ่อของเขาเป็นแฟนบอลเอซี มิลาน ไม่แปลกที่เจ้าเปี๊ยกจะเชียร์ตามโดยสายเลือด นั่นไงแววปิศาจออกซะแล้ว
ที่ปาร์ม่า เจ้าเปี๊ยกสร้างความโดดเด่นให้เป็นข้อแตกต่างระหว่างดาวรุ่งธรรมดา กับ ดาวรุ่งพรรสวรรค์สูง ทักษะเป็นเลิศ ทัวร์นาเมนต์ระดับชาติที่สร้างชื่อให้เจ้าเปี๊ยก คือศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี เจ้าเปี๊ยกมีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีมชาติอิตาลีชุดเล็ก และเจ้าตัวยังได้รับรางวัลแฟร์เพลย์อีกด้วย มอบให้สำหรับนักเตะที่มีการเล่นขาวสะอาด ทั่งเก่งทั้งแฟร์แบบนี้ อนาคตสตาร์เห็นๆ
ว่าแล้วแมวมองทีมเราที่โดนชื่อเสียงเจ้าเปี๊ยกเตะตาไปเต็มๆ ก็รอช้ามิได้ รีบส่งข่าวไปยังป๋ากี้ผู้พิสมัยการปลุกปล้ำ เอ้ย ปลุกปั้นเด็กๆ ประจวบเหมาะกับ ปาร์ม่าทีมของเจ้าเปี๊ยกกำลังประสบปัญหาทางการเงินอยู่พอดี เข้าล็อคพอดีเป๊ะ จ่ายค่าเสียหายนิดหน่อย เจ้าเปี๊ยกก็มาอยู่ในครอบครองโดยชอบธรรมแล้ว
มาปีแรกก็แผลงฤทธิ์ทันที ทีมสำรองกลายเป็นเวทีแสดงศักยภาพที่เกินตัว ให้ผู้ชมได้ตาลุกด้วยความตื่นตาตื่นใจในทักษะความสามารถ ครองบอลดีเสียบอลยาก จ่ายบอลคม ยิงเฉียบขาด ฟรีคิกก็เจ๋ง เซนต์บอลสูง ถึงตัวจะเล็กแต่กระโดดสูงชะมัด ไม่แปลกที่จะโหม่งทำประตูได้บ่อยพอๆ กับการสับไกด้วยซ้ายข้างถนัด เก่งขนาดนี้ กระแสเสียงเรียกร้องอยากเห็นเจ้าเปี๊ยกในทีมชุดใหญ่ก็ดังระงมอยู่ไม่ขาด
การชิมลางในชุดใหญ่ครั้งแรกของเจ้าเปี๊ยกในเกมลีกคัพ กับคริสตัล พาเลซ เดือนพฤษจิกายน 2004 โดยเปลี่ยนลงมาแทน เดวิด เบลลิยง ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกม แต่สิ่งมหัศจรรย์ที่แฟนๆ หวังจะได้เห็นจากเจ้าเปี๊ยก กลับกลายเป็น สัมผัสแรก ขอเรียกอย่างนั้นแล้วกันถึงจะไม่ได้สัมผัสก็เถอะ คือการวอลเลย์วืด……..แบบเต็มๆ ชนิดที่เจ้าเปี๊ยกถึงกับหัวทิ่มลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้นสนามเรียกเสียงหัวเราะลั่นจากแฟนๆ รอบทิศ เจ้าเปี๊ยกถึงกับยิ้มแห้งๆ เสียความมั่นใจไปเยอะน่าดู เวลาที่เหลือก็ทำได้แค่วิ่งไล่บอลไปมา เปิดตัวได้น่าตื่นตาไหมล่ะ
บรมกุญซืออย่างป๋ากี้ ผู้หยั่งรู้ศาสตร์การพัฒนาดาวรุ่งเป็นอย่างดี คงรู้ว่าตอนนั้นยังไม่ใช่เวลาของเจ้าเปี๊ยก จึงยังไม่รีบร้อนส่งเด็กลงไปให้ได้อายซ้ำสอง ทีมสำรองช่วยท่านได้ เจ้าเปี๊ยกยิงเป็นว่าเล่น ขนาดคู่หู ซิลแวง เบลค ขาหักไป แต่เจ้าเปี๊ยกก็เดินหน้าผลิตสกอร์ต่อเนื่อง จนพาทีมสำรองคว้าแชมป์ทุกรายการ และเจ้าตัวเป็นดาวซัลโวของทีม พ่วงด้วยรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร น่าปลื้มซะไม่มี
ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปทีละสเต็ป หลายคนเอาเจ้าเปี๊ยกไปเทียบกับ เชส ฟราเบกาส ของอาร์เซนอล ที่ได้โอกาสลงเล่นตั้งแต่อายุ 17 แล้วตอนนี้มันเป็นยังไงล่ะ ไม่มีพี่ปั๊ตประคองฝีเท้าพัฒนาขึ้นบ้างไหม อยากเลียนแบบกันนักทีมที่ไม่มีนักเตะแล้วต่างหากถึงได้ดึงเด็กขึ้นมาเล่น เริ่มไปแขวะเขาซะแล้ว กลับมาที่เจ้าเปี๊ยกกันต่อ ต้นซีซั่น 2005-2006 ป๋ากี้เรียกเจ้าเปี๊ยกเข้าแคมป์เก็บตัว เพื่อส่งประกวด เอ้ย เพื่อเตรียมทีมช่วงปรีซีซั่น เจ้าเปี๊ยกก็แผลงฤทธิ์อีกครั้งโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและซัดประตูแรกให้ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ ทว่าพอเกมลีกเปิดฉาก เจ้าเปี๊ยกก็กลับลงไปยังทีมสำรองเวทีเก่าที่มีเขาเป็นพระเอก โดยยิงทุกเกมที่ลงสนามแถมแฮตทริกไปซะ 1 เกม
ฟอร์มสดขนาดนี้ กระแสเรียกร้องอยากเห็นรอสซี่ในทีมชุดใหญ่ก็โหมกระพือพรึบพรับขึ้นมาอีกครั้ง น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือมาขวาง ป๋ากี้สบจังหวะเหมาะได้โอกาสใส่ชื่อเจ้าเปี๊ยกในม้านั่งสำรองให้แฟนๆ ดีใจเล่น เกมที่พบกับซันเดอร์แลนด์ ไม่คิดว่าจะได้ลงด้วยซ้ำ แต่แล้วเมื่อสกอร์นำ 2-0 และรูปเกมที่นำอยู่เช่นกัน 15 นาที คือเวลาที่ป๋ากี้ให้โอกาสเจ้าเปี๊ยกขึ้นเวทีของจริง คราวนี้จะไม่วืดแล้ว เจ้าเปี๊ยกอาจจะคิดอยู่ในใจ ลงมาเหมือนเป็นตัวนำโชค(ร้าย) ทีมเสียประตูตีไข่แตก ทีนี้ยุ่งละสิ พระเอกก็เป็นพระเอกวันยังค่ำ เมื่อสบโอกาสเหมาะเจ้าเปี๊ยกก็จัดการสับไก(ไกลจริงๆ)ด้วยความมั่นใจ คนมันจะเฮงซะอย่าง ลูบบอลแฉลบกองหลังเปลี่ยนทางเข้าไปอย่างสวยงาม และแล้วก็ถึงนาทีฉลอง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเจ้าเปี๊ยกไม่ได้เป็นที่คลั่งไคล้เฉพาะเหล่าแฟนๆ เท่านั้น กับเพื่อนร่วมทีมรุ่นพี่ เจ้าเปี๊ยกก็เป็นพระเอกตัวน้อยๆ ด้วย นานมาแล้วที่ไม่ได้เห็นการฉลองประตูที่ทั้งทีมมีส่วนร่วมแบบนี้ ยิ่งไม่ใช่นัดสำคัญชี้ชะตา เฮโลกันเข้ามาเป็นกองพายุ ทำเอาเจ้าเปี๊ยกเกือบเดี้ยงไปเลย เป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้าเปี๊ยกได้ใจเพื่อนร่วมทีมไปเต็มๆ 4ห้องเรียบร้อยแล้ว
พิสูจน์ตัวเองจนชนะใจทุกคนได้แล้ว แต่บททดสอบที่อยู่ข้างหน้าคือความกดดันก้อนมหึมาที่ตามมาพร้อมชื่อเสียง ความหวังทั้งหลายที่เจ้าเปี๊ยกแบกไว้จะหล่นลงมาทับเจ้าตัวหรือไม่ เจ้าเปี๊ยกจะต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับมัน เพราะคำว่าซุปเปอร์สตาร์ไม่ได้สร้างแค่ชั่วข้ามคืน กลับลงไปเรียนรู้ที่จะก้าวทีละขั้น ตามแบบที่ป๋ากี้วางแผนปูทางไว้ให้ เพาะบ่มประสบการณ์ให้เต็มที่ อนาคตยอดนักเตะไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน “เจ้าเปี๊ยก”……
Beckkaew

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts

Dom